Banner-1

รู้ "ศัพท์ Web" เพื่อ Set Goal

เมื่อคุณอยากไดรฟ์ธุรกิจให้ไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ด้วยการสร้างเว็บไซต์ดี สักเว็บ มาช่วยดึง "กลุ่มเป้าหมายที่ใช่" และมาเป็นลูกค้า ในอนาคต ซึ่งแน่นอนว่า การที่จะ Set Goal ที่ดีและชัดเจนนั้น อาจต้องมีกึ๋นในการทำความเข้าใจกับอะไรหลาย อย่างบนเว็บไซต์กันหน่อยเพื่อให้ชีวิตคุณง่ายขึ้น แล้วก็ยังช่วยหาคำตอบที่ว่า "เมื่อไหร่? ที่คุณต้องทำอะไร? เพื่อปิดการขายกับลูกค้าได้อย่างราบรื่น" การทำความรู้จักกับ ศัพท์ Web จึงน่าจะเป็นอีกหนึ่งโจทย์ที่คุณจะต้องโฟกัสเป็นเรื่องแรก ก่อนที่จะเดินหน้าวิเคราะห์การตลาดในเชิงลึกในสเต็ปต่อไปได้หลากหลายมิติมากขึ้น เพื่อเข้าใจ Business Requirement ที่เหมาะสมก่อนการตั้งงบประมาณในขั้นตอนถัดไป

ถึงเวลาเปิดตัว "ศัพท์ Web" กับภารกิจและหน้าที่สำคัญของคำศัพท์แต่ละคำ เพื่อช่วยให้เว็บไซต์ของคุณ Set Goalได้แบบรวดเร็ว

 

 

Business Requirement   

"ผลลัพธ์ของการมี Goal ที่ดี คือ การกำหนด Business Requirementที่ชัดเจน เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจ
ได้อย่างเหมาะสม และครบถ้วนในข้อจำกัดและระยะเวลาที่ชัดเจน"

                                                             

   

Detail-1-1 

Persona

หนึ่งคำศัพท์ที่เจ้าของแบรนด์อย่างคุณต้องรู้เลยก็คือ  "Persona"  บางคนอาจเรียกว่า Buyer Persona ซึ่งก็คือความหมายเดียวกันเลย  Persona เป็นวิธีการในการวิจัยกลุ่มผู้ใช้หรือกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เพื่อให้เจ้าของแบรนด์ธุรกิจรวมไปถึงทีมงานที่เกี่ยวข้อง เข้าใจตรงกันว่ากลุ่มเป้าหมายที่วางไว้นั้น มีลักษณะอย่างไร "พูดง่าย ก็คือว่าทำให้เห็นภาพลูกค้ามากขึ้นนั่นเอง" การสร้าง Persona ก็เพื่อให้คุณทำความรู้จักกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความชอบ พฤติกรรม หรือความต้องการที่คาดหวัง โดยก่อนที่คุณจะได้ Persona มานั้นไม่ใช่การตั้งสมมติฐานหรือมโนเอาเองแบบความน่าจะเป็น แต่คุณจะต้องทำการสัมภาษณ์ พูดคุยกับกลุ่มลูกค้าผู้ใช้สินค้า เพื่อจะทำให้รู้ว่ามีสิ่งไหนที่โดนใจและสิ่งไหนที่โดนเท

Persona จะทำให้คุณรู้ข้อมูล 4 เรื่องหลัก นั่นก็คือ Demographic Behavior Needs และ Goal ที่เกี่ยวข้องกับประสบการณ์ในการใช้สินค้าของคุณ

 

 

Detail-2-1 

Site Structure

สิ่งนี้คือโครงสร้างเว็บไซต์ ทำขึ้นเพื่อลำดับเนื้อหา จัดวางตำแหน่งต่าง ที่ควรจะอยู่บนหน้าเว็บ จัดแจงรายละเอียด กรุ๊ปตามหมวดหมู่เพื่อให้เห็นภาพรวมของเว็บที่จะออกมาเป็นรูปเป็นร่าง คุณจะเห็นภาพได้ง่ายขึ้นเมื่อคุณรู้ว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนในเว็บไซต์ของคุณ อารมณ์เหมือนกับการเขียนแบบบ้านขึ้นมาก่อนลงเสาเข็มจริง   Site Structure จะช่วยให้คุณออกแบบระบบเนวิเกชั่นได้เหมาะสม มีแนวทางการทำงานที่ชัดเจนสำหรับขั้นตอนต่อ ๆ ไป

  

 

Detail-3-2

Wire Frame

เพื่อให้เห็นภาพง่ายขึ้น คุณต้องนึกถึง "ภาพสเก็ต" หรือภาพร่างนั่นแหละ เพียงแต่ว่าสิ่งนี้คือภาพร่างของเว็บไซต์ หน้าที่หลัก ของ "Wire Frame" นั้น เพื่อสื่อสารและอธิบายว่าแต่ละส่วนที่อยู่ในหน้าเว็บไซต์ จะต้องมีอะไรบ้าง ยกตัวอย่างเช่น ข้อความ รูปภาพ ไอคอนหรือ Call-To-Action จะวางไว้แบบไหนดี เพื่อให้คนที่คลิกเข้ามาอ่านในหน้าเว็บเข้าใจและไม่สับสน และเดินไปตามสเต็ปที่ควรจะเป็นในหน้านั้น  Wire Frame เลยเหมือนกับตัวกลางที่ทำให้ทุกฝ่ายเข้าใจตรงกัน แบบที่สามารถแก้ไขได้ก่อนจะเดินหน้าไปสู่ขั้นตอนต่อไปได้นั่นเอง

 

 

 Detail-4-1

UX / UI

User Experience / User Interface

หลายคนคงจะเคยได้ยินคำว่า UX และ UI แต่ไม่รู้ว่าทั้งสองคำนี้มีความหมายต่างกันอย่างไร ซึ่งเราจะอธิบายไปพร้อม กันเพื่อให้เข้าใจมากขึ้น

UX หรือ User Experience ก็คือประสบการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้สินค้าได้ทำการทดลองใช้จริง หรือจากการบอกต่อพูดคุย สำหรับในเว็บไซต์แล้ว คำนี้เป็นคำที่โฟกัสความสำคัญไปที่ User โดยเฉพาะ ซึ่งสำคัญมากกับการทำ Marketing ในปัจจุบัน ผู้ใช้มีตัวเลือกมากมายที่จะใช้สินค้าหรือบริการใด ก็ได้ ถ้าแบรนด์ของคุณไม่ดีพอสำหรับเขา รับรองว่าจะไปแบบไม่มีเยื่อใยกันเลยทีเดียว เพราะแบบนี้นี่แหละ 

"UX ถึงมีความหมายในเชิงการศึกษาเรียนรู้และเข้าใจกลุ่ม User 

เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่ตรงใจที่สุดสู่การสร้าง Brand Loyalty ในอนาคต"

UI หรือ Interface ไม่ใช่ประสบการณ์แบบนามธรรม หรือเชิงความรู้สึกของ User แบบ UX แต่จะเป็นสิ่งที่พวกเขาได้สัมผัสในรูปแบบที่จับต้องได้ เป็นส่วนผสานกับผู้ใช้งาน เช่นปุ่มกด ช่องกรอกข้อความต่าง หรือรูปภาพที่แสดงผลได้ ผ่านแพลทฟอร์มต่าง เช่น Mobile หรือ Website ซึ่งถ้าถามถึงความแตกต่างระหว่าง UX กับ UI อธิบายแบบง่าย เลยก็คือ UX สร้างสิ่งที่มีประโยชน์ตอบโจทย์ผู้ใช้ ในขณะที่ UI สร้างให้เห็นความเป็นรูปเป็นร่างสวยงามขึ้นมานั่นเอง

 

 

Detail-5-1 

CMS

Content Management System

CMS หรือ Content Management System คือ "ระบบหลังบ้าน" จัดการข้อมูลเนื้อหาในเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชัน เป็นจุดหยอดข้อมูลต่าง ลงไปให้จัดการหน้าเว็บได้ง่ายขึ้น เหมือนว่า CMS เกิดมาเพื่อช่วยลดความยุ่งยาก ลดทรัพยากรในการพัฒนาเว็บไซต์ ช่วยประหยัดเวลาและ Save Cost ให้เจ้าของเว็บใจชื้น ปัจจุบันผู้ใช้งาน CMS จะเลือกใช้ระบบ Open Source ที่สามารถนำมาพัฒนาต่อไปฟรีอย่างเช่น WordPress ฯลฯ

 

 

Detail-6  

Landing Page

ถ้า CMS คือ ระบบหลังบ้าน Landing Page คือหน้าบ้าน ที่เป็นอีกหนึ่งในประสบการณ์สำคัญของแบรนด์คุณเลยทีเดียว เป็นหน้าที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการทำ Marketing รุ่นใหม่ โดยเฉพาะการทำ Inbound Marketing  ถามว่า Landing Page สำคัญขนาดไหน? คำตอบก็คือว่า ถ้าคุณมีจุดประสงค์ในการทำเว็บไซต์เพื่อเก็บข้อมูลบางอย่างของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย หรือต้องการให้เขาทำอะไรบางอย่างจากสิ่งที่คุณนำเสนอ Landing Page คือคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับคุณในข้อนี้เลย ซึ่งโดยปกติแล้ววัตถุประสงค์หลัก เช่น การสร้างเป็นหน้าแคมเปญเพื่อต้องการให้คนมา Register หรือเป็นหน้ากรอกข้อมูลที่ต้องการ ฯลฯ Landing Page คือส่วนสำคัญที่จะนำพาลูกค้าเดินทางไปถึงจุดที่คุณต้องการ สำคัญขนาดนี้คิดว่าไม่น่าพลาดสำหรับเว็บคุณนะ

 

 

Detail-7 

SEO

Search Engine Optimization

อีกหนึ่งศัพท์เว็บที่สื่อสารกันบ่อยมาก ก็ต้องคำนี้เลย “SEO” สิ่งนี้เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดมาแรงแซงโค้งที่ทุกธุรกิจให้ความสนใจ เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้ User สามารถค้นหาแบรนด์สินค้าได้ง่ายขึ้นจากการเสิร์ช เพิ่มโอกาสในการขายสู่ความสำเร็จที่น่าพอใจ ซึ่งสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ SEO ก็คือเรื่องของ Keyword จำเป็นที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะทำการเสิร์ชแล้วเจอคุณในอันดับต้น บน Google ค้นหาง่าย เข้าถึงเร็ว แบบนี้ก็จบสวย

ทำความรู้จักให้คุ้นเคยกับ ศัพท์ Web” เหล่านี้แล้วชีวิตจะดีงามลามไปถึงธุรกิจที่งอกงามเช่นเดียวกัน ซึ่งจริง แล้วยังมีบรรดาคำศัพท์ที่คุณต้องทำความเข้าใจอีกมากมาย ถึงจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่ถ้าคุณใส่ใจกับมัน ก็อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของชัยชนะทางธุรกิจที่ให้คุณพบกับคำว่า Success ก่อนใคร

 

Conclusion : ทำความรู้จักกับศัพท์ Web” พื้นฐานเพื่อให้เข้าใจหน้าที่และความสำคัญ ขับเคลื่อนให้เกิดความสำเร็จให้กับธุรกิจของคุณ ยิ่งรู้มากยิ่งได้เปรียบและถึงเป้าหมายได้ไวกว่าคนอื่น

 

 

 

 

Naruemon Kongchuensin

Content Writer
Experience Content Writer 3 years